11 ภาพสถานที่น่าทึ่ง พลังแห่งศรัทธาชาวพุทธ

นับตั้งต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้ธรรมและเผยแผ่พระพุทธศาสนาจนปรินิพพาน พระสัทธรรมของพระพุทธองค์ได้ตั้งมั่นและสืบทอดมาอย่างยาวนาน หลายๆสถานที่ได้แสดงให้เห็นถึงพลังศรัทธาของชาวพุทธสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน มีที่ไหนบ้างมาลองดูกันนะคะ

1. ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) เมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฎร์ ประเทศอินเดีย

เป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างเมื่อ พ.ศ.๓๕๐ การก่อสร้างในยุคแรกๆ เป็น วัดถ้ำของพุทธฝ่ายเถรวาท ความงดงามและอลังการของหินสลักทำให้เห็นถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่

2.มหาสถูปบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย 

ตั้งอยู่ในภาคกลางของเกาะชวา ห่างจากยอกยาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1293 - 1393 โดยบุโรพุทโธเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายาน และบุโรพุทโธก็ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีพ.ศ. 2534

3. พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า

ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่าโดยคำว่า "ชเว" หมายถึง ทอง, "ดากอง"  คือชื่อดั้งเดิมของเมืองย่างกุ้ง เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของชาวพม่า และชาวไทยพุทธก็รู้จักกันเป็นอย่างดี

4. วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส ประเทศญี่ปุ่น

เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 780 มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านทำให้เป็นที่มาของชื่อ “วัดน้ำใส” นอกจากนี้ยูเนสโกได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก (UNESCO world heritage sites) อีกด้วย

5. วัดดักซัง วัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศภูฏาน 

วัดดักซัง ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตร ชายเขตเมืองพาโร วัดตักซังเป็นสถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธากันมากที่สุดแห่งหนึ่งในเขตหิมาลัยภายในเขตวัดมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ทั้งสิ้น 13 แห่ง

6 ถ้ำหลงเหมิน (หลงเหมินสือคู) สาธารณรัฐประชาชนจีน

ถ้ำหินประตูมังกร เป็นกลุ่มถ้ำบนหน้าผา ห่างออกไปทางใต้ 12 กิโลเมตรจากเมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งด้านตะวันออกและด้านตะวันตกเป็นภูเขา มีแม่น้ำ เป็นกลุ่มถ้ำบนหน้าผา หันหน้าออกสู่ริมฝั่งแม่น้ำอี้ 

7 ศานติสถูป ประเทศอินเดีย  

เป็นเจดีย์ทรงโดมสีขาว ตั้งอยู่ในเมืองจันสปา แคว้นลาดัก สร้างขึ้นเมื่อปี 1991 โดยคณะเจดีย์เพื่อสันติภาพของญี่ปุ่น ภายในสถูปแห่งนี้ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากจะมีความสำคัญทางศาสนาแล้ว สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นจุดชมวิวที่งดงามอีกด้วย

8.พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬา ลาว

เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย  สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างยิ่งแห่งหนึ่งของประเทศลาว 

 9. วัดแฮดอง ยงกุงซา เกาหลี

ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองปูซาน เป็นวัดที่สร้างบนเหล่าโขดหินริมชายหาดที่แตกต่างไปจากวัดส่วนใหญ่ในประเทศเกาหลีวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น เมื่อปี 1376 ในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ ยูวัง แห่งราชวงศ์ โครยอ

10. สถูปสวะยัมภูนาถ ประเทศเนปาล

ตั้งอยู่บนยอดเขาห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 3 กิโลเมตร ตัวสถูปตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆประมาณ 77 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลของหุบเขากาฐมาณฑุ จึงทำให้เห็นทิวทัศน์เหนือหุบเขาที่แสนงดงามสถูปแห่งนี้เป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล โดยองค์การยูเนสโกได้ทำการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522 

11. วัดโป่หลิน ฮ่องกง 

เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาโป่หลิน ของเกาะลันเตา ฮ่องกง ชาวฮ่องกงเชื่อกันว่า หากใครได้ไปนมัสการ ขอพรพระใหญ่แห่งวัดโป่หลินแล้ว ชีวิตก็จะมี แต่ความสุข และประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านวัดโป่หลิน แปลเป็นไทยว่า วัดดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นเมื่อปี1924เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ประทับกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

10 วิธี ลดความเครียด รักษาอารมณ์แจ่มใสตลอดวัน

1.  คิดว่าวันนี้เป็นวันที่ดีของเราเป็นสิ่งแรก ไม่ว่าเมื่อวานหรือวันไหนๆ จะมีปัญหา หรือเหตุการณ์เลวร้ายยังไง เมื่อนอนหลับและตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นก็เหมือนรีเซ็ตใหม่ ทิ้งปัญหาเลวร้ายไว้ข้างหลังเถอะ

 

2. หลับตาทำใจนิ่งๆว่างๆซัก 15 นาที ก่อนจะลุกจากที่นอน หรือจะนั่งสมาธิในตอนเช้าก็ได้ การรวมใจเป็นสมาธิเหมือนกับเพิ่มพลังให้กับใจ เมื่อใจรวมกันเป็นจุดเดียวเหมือนแว่นขายรวมแสง พลังก็จะยิ่งมาก เมื่อใจพร้อม ร่างกายก็พร้อมไปด้วย

3. เลือกฟังเพลงบรรเลงเบาๆ หรือฟังเสียงสวดมนต์ยามเช้าแทนการดูข่าวหรือเล่นโทรศัพท์ ในระหว่างแต่งตัวหรือทานอาหารเช้า เพราะเดี๋ยวนี้ข่าวมักจะมีแต่เรื่องลบๆ ควรเริ่มวันด้วยเรื่องดีๆ

4. หาแง่มุมบวกในทุกสถานการณ์ที่เจอ ไม่ว่าจะเจอฝนตก รถติด ถ้ามีเพื่อนร่วมทางบนรถ ก็คิดซะว่า ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันได้นานขึ้น  ถ้าอยู่คนเดียวจะได้ให้เวลาตรวจความเรียบร้อยส่วนตัว ก่อนไปพบปะผู้คน 

5. เติมแนวคิดบวกของคนอื่นให้กับเราบ้าง ติดตามข้อความบวกๆของนักสร้างแรงบันดาลใจ หรือธรรมะจากพระอาจารย์ทาง อินเตอร์เน็ต หรือ หนังสือ ในระหว่างวันบ้าง

6. พยายามสร้างบรรยากาศที่ดีด้วยรอยยิ้มและปิยวาจา 

ยิ้มสร้างโลก เพียงคุณยิ้ม กล้ามเนื้อบนใบหน้า ทำให้ความเครียดลดลงได้ ยิ้มและพูดจาเพราะๆกับผู้อื่นก็จะทำให้โลกสดใสในบัดดล

7. ยอมรับฟังความคิดเห็น หรือ คำวิจารณ์ของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือผู้ร่วมงาน และคิดว่าเค้าเตือนด้วยความหวังดี และเปลี่ยนคำวิจารณ์นั้นเป็นพลังในการพัฒนาตนเอง

8. ในทุกๆ 1 ชั่วโมง รวมใจเป็นสมาธิ นิ่งๆว่างๆซัก 1 นาที เพียงเท่านี้ ในทุกๆชั่วโมงก็จะทำให้ใจเรามีพลัง สติมา ปัญญาเกิดได้แล้ว

9. เมื่อกลับเข้าบ้านให้นำรอยยิ้มและเรื่องดีๆไปแบ่งปัน

ให้กับคนที่บ้านด้วย หรืออาจจะคุยเล่นเล่าเรื่องดีๆให้กับสุนัขหรือแมวของคุณก็ได้

10. ก่อนนอน สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิอย่างน้อยซัก 15 นาที นึกถึงสิ่งดีๆ หรือบุญที่เราได้เคยทำมา

ทั้ง 10 ข้อนี้ เป็นวิธีง่ายๆที่จะรักษาอารมณ์ดี อารมณ์สบาย สดชื่น แจ่มใส ให้กับตัวเราได้แล้ว เมื่ออารมณ์ดี สุขภาพก็ดี หน้าก็ใส อ่อนเยาว์วัยอยู่เสมอ

ทำไมเกิดมา สวย หล่อ ไม่เหมือนกัน ???

สวัสดีจ๊ะ น้องๆ วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องทำไมคนเราถึงสวยและไม่สวย น้องๆ เคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมคนในโลกนี้ สวยหล่อไม่เท่าเทียมกันเลย

หรือเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่เราไม่สวย ไม่หล่อน๊ะ แต่เอ๊ะ และทำไมบ้านข้างเราคุณพ่อคุณแม่เขาก็สวย หล่อ แต่ลูกไม่สวยไม่หล่อ เหมือนคุณพ่อและคุณแม่ล่ะ นั่นสิ สงสัยใช่ไหมล่ะ มาเรามาหาคำตอบ

กันเลยจ๊ะ

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้ทรงตรัสไว้ว่า มนุษย์เราที่เกิดมาล้วนมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นกำเนิด น้องๆอย่าเพิ่งงงน๊ะจ๊ะ การที่เราเกิดมาไม่หล่อไม่สวย ล้วนเป็นวิบากกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นวิบากกรรมจากวาจา(การพูด)เช่น ล้อเพื่อนตัวดำ ฟันเหยิน ใครเคยล้อเพื่อนบ้างจ๊ะหยุดเลยน๊ะจ๊ะ เพราะวจีกรรมเหล่านั้น ไม่ได้ตกที่เพื่อนจ๊ะ แต่ตกที่ตัวเราผู้พูด เห็นไหมจ๊ะว่า ใครทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น น้องๆ กลัวไหมจ๊ะ ถ้ากลัวต้องหยุดล้อเพื่อน หยุดการกระทำที่ไม่ดีจ๊ะ

แล้วเอ....เกี่ยวกันไหมกับคนที่หล่อและสวย

เกี่ยวสิจ๊ะ ถ้าน้องๆ อยากหล่อและสวยต้องหยุดการกระทำที่ไม่ดีจ๊ะ 

และหันกลับมาสวดมนต์ รักษาศีลจ๊ะ การรักษาศีลน้องๆก็ทำได้จ๊ะเช่นการรักษาศีล 5 จ๊ะ.

ถ้าเราอยากหล่ออยากสวยต้องรักษาศีล 5 อานิสงส์ของการรักษาศีล 5 ข้อ ทำให้ผู้ที่รักษาศีล 5 เกิดมาหน้าตาสดใส ผิวพรรณงาม รูปร่างสมส่วน

ไม่อ้วนและไม่ผอมจ๊ะ ตาสวย ฟันสวยผิวหน้าผ่องใส เส้นผมไม่หยิกประดุจเส้นไหม โอ้โหน้องๆชอบไหมล่ะจ๊ะ สวยหล่อโดยกำเนิดเลย ถ้าอยากสวยหล่อปฏิบัติไม่ยากเลยจ๊ะ ตื่นเช้ามาอารธนาศีล 5 ข้อก่อนออกจากบ้านทุกๆ เช้า หรือก่อนนอน ทำเป็นประจำทุกๆ วันเท่านี้เราก็จะมีผังสวยหล่อแล้วจ๊ะ ยากไหมจ๊ะ ไม่ยากเลย ลองทำดูน๊ะจ๊ะ วันต่อไปมาติดตามกันจ๊ะ ว่าศีล 5 ข้อ มีอะไรบ้าง และแต่ละข้อมีอานิสงส์(ส่งผล)อย่างไร มาติดตามตอนต่อไปน๊ะจ๊ะ 

https://www.facebook.com/digidham/

จากพี่แก้วเจ้าจอม